Header Ads

Breaking News
recent

แจกฟรี สูตรปุ๋ยน้ำจากหอยเชอรี่ 6 สูตร


          หอยเชอรี่ หรือ หอยโข่งอเมริกาใต้ หรือ หอยเป๋าฮื้อน้ำจืด เป็นหอยน้ำจืดจำพวกหอยฝาเดียว มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้

ขอเสียของ หอยเชอรี่
          หอยเชอรี่กินพืชที่มีลักษณะนุ่มได้เกือบทุกชนิด เช่น สาหร่าย, ผักบุ้ง, ผักกระเฉด, แหน, ต้นกล้าข้าว, ซากพืชน้ำ และซากสัตว์ที่เน่าเปื่อยในน้ำ โดยเฉพาะต้นข้าวในระยะกล้าและที่ปักดำใหม่ ๆ ไปจนถึงระยะแตกกอ หอยเชอรี่ จะชอบกินต้นข้าวในระยะกล้าที่มีอายุ ประมาณ 10 วัน มากที่สุด โดยเริ่มกัดส่วนโคนต้นที่อยู่ใต้น้ำเหนือจากพื้นดิน 1 – 1.5 นิ้ว จากนั้นกินส่วนใบที่ลอยน้ำจนหมด ใช้เวลากินทั้งต้นทั้งใบ นานประมาณ 1-2 นาที


          ส่วนข้อดี ของหอยเชอรี่ในด้านการเกษตรกรรมก็มีอยู่เหมือนกัน อย่างเช่นที่เกษตรนานา จะแนะนำในวันนี้คือ วิธีการทำน้ำปุ๋ยหมักจากหอยเชอรี่ ทั้ง 6 สูตร ก่อนอื่นต้องไปทำหัวเชื้อจุลินทรีย์ธรรมชาติ กันก่อน ซึ่งก็มีวิธีทำดังต่อไปนี้


วิธีการทำหัวเชื้อจุลินทรีย์ธรรมชาติ
          1. เก็บหัวเชื้อจุลินทรีย์ธรรมชาติจากเปลือกสับปะรด จากแปลงปลูกสับปะรดในระยะการเจริญเติบโตที่พร้อมจะเก็บบริโภค ซึ่งแปลงปลูกสับปะรดไม่มีการใช้สารเคมีกำจัดโรคพืชมาก่อนไม่น้อยกว่า 3 เดือน ซึ่งจะมีเชื้อจุลินทรีย์อยู่ตามธรรมชาติ

          2. เฉือนหรือปลอกเปลือกสับปะรดให้ติดตาจากผลสับปะรดสุกจำนวน 3 ส่วน สับหรือบดให้ละเอียดแล้วนำมาผสมกับน้ำตาลโมลาส (กากน้ำตาล) 1 ส่วน แล้วนำทั้ง 2ส่วนมาผสมกัน คลุกเคล้าให้เข้ากัน พร้อมทั้งใส่น้ำมะพร้าวผสมด้วย จำนวน 1 ส่วน เมื่อผสมกันแล้วใส่ถังปิดฝาด้วยผ้าขาวบาง ทิ้งไว้ 7 – 10 วัน ถ้ามีกลิ่นเหม็นให้เติมน้ำตาลโมลาส(กากน้ำตาล) ลงไปคนให้เข้ากันจนกลิ่นหายไป

          3. หัวเชื้อจุลินทรีย์ที่หมักได้ที่ สามารถเก็บในภาชนะที่ปิดฝาสนิท ในสภาพอุณหภูมิห้องได้นานเป็นปี

---------------

วิธีการทำปุ๋ยน้ำจากหอยเชอรี่


วิธีที่ 1 หมักหอยเชอรี่ทั้งตัว
1. หอยเชอรี่ทั้งตัวมาทุบหรือบดให้ละเอียดพร้อมเปลือก 3 ส่วน
2. น้ำตาลโมลาส (กากน้ำตาล) 3 ส่วน
3. น้ำหมักหัวเชื้อจุลินทรีย์ธรรมชาติ 1 ส่วน

วิธีการทำ
          นำทั้ง 3 อย่างมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำไปบรรจุในถังหมักปิดฝาทิ้งไว้และคนให้เข้ากัน ถ้ามีการแบ่งชั้น ถ้ามีกลิ่นเหม็นให้เติมกากน้ำตาลลงไปคนให้เข้ากัน จนหายกลิ่นเหม็น แล้วหมักต่อไปจนกว่าจะไม่เกิดก๊าซให้เป็นบนผิวหน้าของปุ๋ยน้ำหมักหอยเชอรี่ แต่จะเห็นความระยิบระยับอยู่ที่ผิวหน้าน้ำหมักดังกล่าว บางครั้งอาจจะพบว่ามีตัวหนอนลอยผิวหน้าหรือบริเวณข้างถัง ควรรอให้ตัวหนอนใหญ่เต็มที่และตายไป ก็ถือว่าการหมักหอยเชอรี่สิ้นขบวนการ กลายเป็นปุ๋ยน้ำหมักหอยเชอรี่ สามารถนำไปใช้ได้หรือนำไปพัฒนาผสมกับปุ๋ยน้ำอื่นๆ ใช้ประโยชน์ต่อไป

---------------


วิธีที่ 2 หมักไข่หอยเชอรี่และพืช
1. นำกลุ่มไข่หอยเชอรี่บดให้ละเอียดผสมกับพืชอ่อนๆ หั่น 3 ส่วน
2. น้ำตาลโมลาส (กากน้ำตาล) 3 ส่วน
3. หัวเชื้อจุลินทรีย์ธรรมชาติ 1 ส่วน

วิธีการทำ
        (ทำเหมือนวิธีที่ 1)

---------------


วิธีที่ 3 หมักเนื้อหอยเชอรี่ ไข่หอยเชอรี่ และพืชสด
1. ตัวหอยเชอรี่หรือเปลือก ไข่ และพืชสด 3 หรือ 6 ส่วน
2. น้ำตาลโมลาส (กากน้ำตาล) 3 หรือ 6 ส่วน
3. หัวเชื้อจุลินทรีย์ธรรมชาติ 5 หรือ 3 ส่วน

วิธีการทำ
        (ทำเหมือนวิธีที่ 1)

---------------


วิธีที่ 4 หมักเนื้อหอยเชอรี่และพืชสด
1. นำเนื้อหอยเชอรี่ต้มสุกบดให้ละเอียด + พืชสดสับ 3 ส่วน
2. น้ำตาลโมลาส (กากน้ำตาล) 3 ส่วน
3. หัวเชื้อจุลินทรีย์ธรรมชาติ 1 ส่วน

วิธีการทำ
        (ทำเหมือนวิธีที่ 1)

---------------


วิธีที่ 5 หมักเนื้อหอยเชอรี่ต้มสุก
1. นำเนื้อหอยเชอรี่ที่ต้มสุกใส่เกลือแกงพอเหมาะบดละเอียด 3 ส่วน
2. น้ำตาลโมลาส (กากน้ำตาล) 3 ส่วน
3. หัวเชื้อจุลินทรีย์ธรรมชาติ 1 ส่วน

วิธีการทำ
        (ทำเหมือนวิธีที่ 1)

---------------


วิธีที่ 6 หมักไข่หอยเชอรี่
1. นำกลุ่มไข่หอยเชอรี่มาทุบหรือบดให้ละเอียด 3 ส่วน
2. น้ำตาลโมลาส (กากน้ำตาล) 3 ส่วน
3. หัวเชื้อจุลินทรีย์ธรรมชาติ 1 ส่วน

วิธีการทำ
        (ทำเหมือนวิธีที่ 1)

---------------

อัตราการนำไปใช้ ทั้ง 6 สูตร

1. พืชที่มีอายุน้อย หรือระยะการเจริญเติบโตแรกๆ ใช้ 20 ซ๊ซี / น้ำ 20 ลิตร สามารถใช้ได้ 7 – 10 วัน ขึ้นอยู่กับชนิด อายุ ช่วงการเจริญเติบโตของแต่ละพืช

หมายเหตุ
- ถ้าต้องการน้ำมากให้ใส่น้ำมะพร้าวอ่อนหรือแก่ให้มากหรือท่วมปุ๋ยหมัก

- การทำน้ำหมักชีวภาพไม่ว่าจากหอยเชอรี่หรือวัสดุอื่น เป็นการย่อยสลายในกระบวนการแบบไม่ใช้ออกซิเจน ที่จุลินทรีย์จะปล่อยกลิ่นเหม็นจากแก๊สไข่เน่าหรือไฮโดรเจนซัลไฟด์ออกมาตามธรรมชาติ แถมด้วยแก๊สมีเทนที่ถ้ามีขนาดถังใหญ่ ๆ ก็สามารถนำไปใช้หุงต้มได้

* * * * *
ทำเกษตรแล้วไม่มีที่ขาย ขายได้ที่
ตลาดกลาง "ซื้อ-ขาย สินค้าเกษตร"
ที่สมาชิกเยอะที่สุด
VV คลิก VV

แชร์...ตรงนี้  เพื่อเป็นประโยชน์ ให้เพื่อนที่ได้เห็น
VVVVVVVVV
Powered by Blogger.