การปลูก Celery (ขึ้นฉ่ายฝรั่ง) แบบง่ายๆ
Celery (ขึ้นฉ่ายฝรั่ง) ผักที่มีลำต้นและใบคล้ายผักชี แต่มีขนาดใหญ่กว่า ขึ้นฉ่ายในท้องตลาดมีอยู่ 2 พันธุ์ คือ ขึ้นฉ่ายจีนและขึ้นฉ่ายฝรั่ง ขึ้นฉ่ายจีน มีก้านใบเรียวเล็ก ใบสีเขียวเข้มและกลิ่นฉุนกว่า ใช้ประกอบอาหารประเภทยำ ผัด แกงจืด ส่วนขึ้นฉ่ายฝรั่งหรือเซเลอรี มีก้านใบอวบหนาสีอ่อนกว่าพันธุ์จีน เนื้อกรอบ นิยมใส่ในสลัด ซุป
ขึ้นฉ่ายฝรั่งเป็นอาหารที่ให้พลังงานต่ำ โดยขึ้นฉ่ายฝรั่ง 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 13 กิโลแคลอรี เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก เพราะกาบใบอวบหนานั้นมีน้ำและเส้นใยอาหารชนิดไม่ละลายน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก เส้นใยเหล่านี้ช่วยเพิ่มปริมาณกากอาหารในลำไส้ ทำให้อิ่มได้นาน ขึ้นฉ่ายฝรั่งมีแร่ธาตุสำคัญหลายชนิด เช่น แคลเซียมสูงเหมาะสำหรับสตรีมีครรภ์และเด็กที่เป็นโรคกระดูกอ่อน มีโซเดียมต่ำเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคไต มีโพแทสเซียมซึ่งมีฤทธิ์ขับปัสสาวะอ่อน ๆ ช่วยลดอาการบวมน้ำและปรับระดับความดันโลหิตช่วยเร่งกระบวนการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย รวมถึงกำจัดกรดยูริกที่สะสมตามข้อ อันเป็นสาเหตุของโรคเกาต์ด้วย
ขึ้นฉ่ายฝรั่งอุดมไปด้วยวิตามินซี ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรค โดยเฉพาะเมื่อกินเป็นผักสด หากนำไปผัดน้ำมันก็จะได้รับเบตาแคโรทีนอย่างเต็มที่ เพราะน้ำมันไปช่วยให้เบตาแคโรทีนทำงานได้ดียิ่งขึ้น เป็นสารต้านอนุมูลอิสระตัวสำคัญ ที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็ง ขึ้นฉ่ายฝรั่งยังมีสารฟลาโวนอยด์ชื่อ เอพิจีนิน (Epigenin) ที่มีคุณสมบัติในการลดสารที่ก่อให้การอักเสบในเลือด ลดภาระของระบบภูมิคุ้มกัน และจากผลการทดลองของนักวิจัยพบว่า ขึ้นฉ่ายฝรั่งอาจมีส่วนในการลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคมะเร็งรังไข่ได้
กลิ่นหอมชื่นใจของขึ้นฉ่ายฝรั่งมาจากน้ำมันหอมระเหยลิโมนีน (Limonene) และซีลินีน (Selinene) มีสรรพคุณช่วยให้เจริญอาหาร ลดอาการจุกเสียด ขับลมในกระเพาะอาหารและลำไส้ และยังมีสารประกอบ 3 เอ็น-บิวทิล ฟทาไลด์ (3 n-butyl phthalide) หรือสารทาไลด์ เป็นสารอีกชนิดที่ทำให้ขึ้นฉ่ายมีกลิ่นหอมเฉพาะตัว มีฤทธิ์เป็นยาระงับประสาท ช่วยให้หลับสบาย ลดปริมาณคอเลสเตอรอลและช่วยลดความดันโลหิตได้ด้วย โดยกินวันละ 6 ช้อนโต๊ะพูนความดันโลหิตจะลดลง
* * * * *
เครดิต : แม่บ้านจิงโจ้ MissOzzy Osborne
แชร์...ตรงนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ ให้เพื่อนที่ได้เห็น
VVVVVVVVV