Header Ads

Breaking News
recent

การปลูกฝ้าย


การปลูกฝ้าย

     ควรเลือกที่ดินที่เหมาะสม ฝ้ายเป็นพืชดอน ไม่ต้องการน้ำขังแช่ราก ฉะนั้น พื้นที่ที่เหมาะแก่การปลูกฝ้ายจะต้องเป็นที่ระบายน้ำได้ดี แม้ว่าฝนจะตกหนักติดต่อกันหลายวัน น้ำก็จะต้องระบายออกได้ ที่ดินในสภาพที่ว่านี้ จึงต้องเป็นดินที่มีดินล่างระบายน้ำได้ดี เมื่อฝนตกลงมาก็ซึมลงไปได้รวดเร็ว เช่น ดินในท้องที่จังหวัดสุโขทัย และดินแถวอำเภอกำแพงแสน อำเภออู่ทอง หรือไม่ที่ดินนั้นจะต้องเป็นที่ลาดเนิน ซึ่งเมื่อฝนตกหนัก น้ำก็สามารถระบายออกได้โดยธรรมชาติ ถ้าที่ดินเป็นดินเหนียว การระบายน้ำไม่ดีก็ต้องยกร่องก่อนปลูก การที่ต้องเน้นหนักในเรื่องนี้ เพราะในประเทศไทยนั้น ระยะการปลูกฝ้ายอยู่ในระหว่างเดือนกรกฎาคม ไปจนสิ้นฤดูฝน เรื่องคุณภาพของดินไม่ค่อยมีความสำคัญมากนัก เพราะปกติแล้วฝ้ายขึ้นได้ในดินแทบทุกชนิด ไม่ว่าดินร่วน ดินเหนียว หรือดินทราย ขอแต่ให้มีอินทรียวัตถุปนอยู่บ้าง และมีธาตุอาหารพืชอยู่พอควร ในที่ดินไม่ค่อยอุดมสมบูรณ์ฝ้ายก็จะให้ผลิตผลเป็นที่พอใจ ถ้าปลูกฝ้ายในที่ดินอุดมสมบูรณ์มาก จะทำให้ต้นฝ้ายใหญ่โตเกินไป ทำให้เข้าไปปฏิบัติรักษา เช่น การพ่นสารเคมีป้องกันและกำจัดแมลง และการเก็บเกี่ยวลำบากมาก สู้ดินที่มีความสมบูรณ์ปานกลางไม่ได้ ซึ่งอาจพูดได้ว่า ที่ดินที่ปลูกพืชอื่น เช่น ข้าวโพด ไม่ได้ผล แต่กลับเหมาะสำหรับการปลูกฝ้ายมาก


การเตรียมดิน
     ได้แก่ การไถพรวน ทำให้ดินร่วนซุย ซึ่งทำเช่นเดียวกับการปลูกพืชไร่อื่น ๆ จะไถ ๒ หรือ ๓ ครั้ง ก็แล้วแต่สภาพพื้นที่ดิน ขอให้ดินนั้นร่วนซุยเป็นใช้ได้ การเตรียมดินควรเริ่มทำก่อนถึงกำหนดปลูกประมาณ ๑ เดือน โดยไถดะ ฆ่าหญ้าในครั้งแรก ทิ้งไว้ให้หญ้าตายก่อน ถึงวันปลูกจึงไถแปรและพรวนอีกครั้งก็จะใช้ปลูกฝ้ายได้ ถ้าหากปลูกไร่ใหญ่ต้องใช้เครื่องจักรกล เช่น เครื่องปลูก การพ่นสารเคมีป้องกันและกำจัดแมลงด้วยเครื่องขนาดใหญ่ จะต้องพยายามปรับพื้นที่ให้สม่ำเสมอ เพื่อให้เครื่องจักรกลทำงานได้สะดวกและมีประสิทธิภาพ

ฤดูปลูก
     ฤดูปลูกฝ้ายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างหนึ่งที่ต้องกำหนด เพราะปลูกฝ้ายก็เพื่อให้ได้ปุยฝ้ายสีขาวสะอาด ฉะนั้น จึงต้องกำหนดให้ฝ้ายไปแก่แตกปุยแตกสมอในเมื่อฝนหยุดแน่นอนแล้ว อายุของฝ้ายที่ปลูกเป็นอุตสาหกรรมโดยทั่วไป ตั้งแต่วันเริ่มงอกถึงวันแตกสมอ ใช้เวลาประมาณ ๑๒๐ วัน ถ้าปลูกฝ้ายต้นฤดูเกินไป ต้นฝ้ายจะงามก็จริง แต่เมื่อฝ้ายแตกสมอแล้วฝนยังไม่หยุดทำให้ปุยฝ้ายเปียกเสียได้ และถ้าปลูกล่าเกินไปต้นฝ้ายก็จะเล็ก ได้ผลิตผลต่ำ ฉะนั้น ฤดูกาลสำหรับปลูกฝ้ายจึงต้องเลือกเอาเวลาที่จะให้ผลดีที่สุด เช่น ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นท้องที่ที่ฝนหมดเร็วและดินไม่อุ้มน้ำนั้น จะต้องปลูกฝ้ายในระยะปลายเดือนมิถุนายนถึงต้นเดือนกรกฎาคม จะให้ผลิตผลดี ในภาคเหนือ เช่น แพร่ น่าน และลำปาง ควรจะปลูกในต้นเดือนกรกฎาคม ในภาคกลางตอนเหนือ เช่น แถบสุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ สระบุรี และลพบุรี ปลูกได้ดีภายในเดือนกรกฎาคม ส่วนในภาคกลางตอนล่าง ตั้งแต่นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี ลงไปถึงเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์นั้น ควรปลูกในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม การที่ต้องกำหนดเวลาปลูกแตกต่างกันไปเช่นนี้ก็เนื่องจากฤดูฝนหมดไม่เหมือนกัน

เมล็ดพันธุ์
     ก่อนถึงเวลาปลูกจะต้องเตรียมเมล็ดพันธุ์ไว้ก่อน เมล็ดพันธุ์จะต้องเป็นเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพดี ไม่มีพันธุ์อื่นปะปน และเป็นเมล็ดใหม่ไม่ค้างปี เมล็ดฝ้าย ๑ กิโลกรัม จะมีจำนวน ๘,๐๐๐-๑๐,๐๐๐ เมล็ด ฉะนั้น ไร่หนึ่งใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ ๒ กิโลกรัม แต่ควรมีเผื่อไว้ปลูกซ่อมบ้าง หากจะคลุกยาป้องกันกำจัดโรคแมลงศัตรู ก็ให้คลุกไว้ก่อนถึงเวลาปลูก ปกติเมล็ดฝ้ายที่ได้จากฝ้ายแก่ และเก็บรักษาดีจะมีความงอกไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๘๕ ในเวลา ๑ ปี

วิธีปลูก
     การปลูกฝ้ายควรจะปลูกเป็นแถว ใช้ระยะปลูกระหว่างแถวห่างกันประมาณ ๑๐๐-๑๒๕ เซนติเมตร ระหว่างหลุมห่างกัน ๕๐ เซนติเมตร ทั้งนี้ เพื่อสะดวกแก่การปฏิบัติดูแลรักษา ตลอดจนการเก็บเกี่ยว การปลูกจะปลูกเป็นหลุม ๆ โดยใช้จอบขุดตื้น ๆ ตามระยะที่กำหนดไว้ แล้วหยอดเมล็ดฝ้ายลงไป ๖-๗ เมล็ด / หลุม เอาดินกลบบาง ๆ เพียง ๑ - ๑ ๑๒นิ้ว ก็ได้ หรือจะใช้ไถเปิดร่องก่อน แล้วโรยเมล็ดฝ้ายลงไปห่าง ๆ แล้ว จึงกลบดินก็ได้ ระวังอย่าขุดหลุมลึกหรือกลบดินหนา ต้นฝ้ายจะงอกขึ้นไม่ได้ ถ้าดินมีความชื้นพอ หรือหลังจากปลูกมีฝนตกเพียง ๓-๔ วัน ต้นฝ้ายอ่อนก็จะงอกโผล่ขึ้นมา และเมื่อฝ้ายมีอายุได้ประมาณ ๒๐ วัน ต้องถอนให้ได้ตามระยะ ถ้าปลูกเป็นหลุมให้เหลือไว้ ๑-๒ ต้น อย่าทิ้งไว้มากกว่านี้ ผลิตผลจะต่ำลง การปลูกฝ้ายถ้าปลูกเป็นไร่ใหญ่อาจจะใช้เครื่องปลูก ซึ่งจะปลูกได้รวดเร็วและมีระยะดีมาก (การปลูกฝ้ายเป็นแถว ทำให้ดูแลรักษาสะดวก)

การปฏิบัติดูแลรักษา
     การปฏิบัติทั่ว ๆ ไป ทำเช่นเดียวกับพืชไร่อื่น ๆ คือ ต้องดายหญ้า พรวนดิน กสิกรส่วนมากดายหญ้าด้วยจอบอยู่แล้ว ฉะนั้น เมื่อดายหญ้าก็จะเป็นการพรวนดินไปในตัว ในขณะที่ดายหญ้า ควรจะถากเอาหญ้าและเศษดินมากลบโคนต้นฝ้ายไปตามแถวฝ้ายทุกครั้ง ปกตินั้นควรดายหญ้าฝ้ายครั้งที่ ๑ หลังจากปลูกประมาณ ๓ สัปดาห์ และดายหญ้าครั้งที่ ๒ เมื่อฝ้ายมีอายุ ๔๐-๔๕ วัน ในที่ที่มีหญ้าไม่มากนัก ดาย ๒ ครั้งก็พอ เพราะพอฝ้ายอายุได้ ๕๐-๖๐ วัน ต้นฝ้ายจะโต ใบ ฝ้ายในแถวจะชิดกัน ทำให้แสงแดดส่องลงไม่ถึงดินหญ้าก็จะขึ้นได้ลำบาก การดายหญ้า ถ้ากสิกรมีเครื่องพรวนสำหรับดายหญ้าก็ยิ่งดี จะทำให้การทำงานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น แต่ในระหว่างหลุมก็จำเป็นต้องใช้แรงงานคนช่วยบ้าง สำหรับที่ที่มีหญ้าหนาแน่นจะต้องดายหญ้าถึง ๓ ครั้ง

     การกำจัดวัชพืชนี้เป็นงานหนักมาก ฉะนั้น ในไร่ขนาดใหญ่ จึงต้องใช้ยาเคมีเข้าช่วยปราบ อาจเป็นยาชนิดฉีดพ่นก่อนเมล็ดหญ้างอก คือ พอปลูกฝ้ายเสร็จ ก็ฉีดพ่นเลย ยาที่ใช้นี้มีหลายชนิด เช่น ยาแลสโซ (lasso) และ ยาไดยูรอน (diuron) ซึ่งเป็นยากำจัดเมล็ด

* * * * * *
บทความดีดีจาก : myveget.com
โดย : Kaset NaNa เกษตรนานา


ลิ้งค์ที่น่าสนใจ



Powered by Blogger.