Header Ads

Breaking News
recent

การปลูกข่าเหลือง

ภาพ : farmkaset

การปลูกข่าเหลือง

          ข่าเหลือง เป็นพืชที่ใช้ทำอาหารที่สำคัญของภาคใต้ มีลำต้นอยู่ในดินเรียกว่า "เหง้า" มีข้อและปล้องเห็นได้ชัดเจน เนื้อในสีเหลือง และมีกลิ่นหอมเฉพาะ ลำต้นที่อยู่เหนือพื้นดินสูง 1-2 เมตร ใบสีเขียวออกสลับข้างกัน ดอกออกเป็นช่อที่ยอด ผลเปลือกแข็ง ส่วนที่ใช้บริโคภคือ เหง้า ดอก หน่ออ่อน ส่วนการปลูกข่าเหลือง จะขยายพันธุ์โดยใช้หัว (เหง้า) ใต้ดินปลูก

การปลูกข่าเหลือง
          ข่าเหลืองชอบที่ดอน ดินร่วนซุยปนทรายอุดมสมบูรณ์และชุ่มชื้น แต่ไม่ชอบน้ำขัง ฤดูที่เหมาะสมกับการปลูกข่าเหลืองคือฤดูฝน ส่วนการปลูก

- ไถให้ลึกพอประมาณและพรวนดินตากแดดไว้ประมาณ 7-10 วัน จากนั้นขุดหลุมให้ลึกประมาณ 30x30 ลึก 20 เซนติเมตร โดยเว้นระยะห่างระหว่างต้นและแถวประมาณ 100x100 เซนติเมตร

- เตรียมเหง้าพันธุ์ข่าเหลืองที่อายุแก่จัด โดยตัดเป็นท่อนยาว 3-4 นิ้ว ที่มีข้อ+ตา 4-5 ตา ตัดก้านใบหรือต้นให้เหลือ 5-6 นิ้ว หรือจะตัดออกหมดเลยก็ได้ นำหัวพันธุ์ไปแช่น้ำยาฆ่าและป้องกันเชื่อรา (แต่ระวังอย่าให้รากช้ำ)

- ก่อนปลูกใส่ปุ๋ยเคมีรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยสูตร 15-15-15 พร้อมปูนขาวประมาณ 1 ช้อนแกง แล้ววางเหง้าข่าเหลืองลงในหลุ่ม ๆ ละ 2 เหง้า กลบดินให้แน่พอประมาณหาเศษฟางมาคุมเพื่อรักษาความชื้นแล้วรดน้ำให้ชุ่ม

การดูแลรักษาข่าเหลือง
- หากฝนไม่ตก ให้รดน้ำให้ชุ่ม 2-3 วันต่อครั้ง

- ในช่วงแรกของการปลูกให้หมั่นดูแลวัชพืชอย่าให้หญ้ามีเยอะและสูงท่วมข่าได้ (เมื่อข่ามีใบคลุมดินแล้ววัชพืชก็จะไม่ค่อยมี)

- เมื่อข่ามีอายุ 2 เดือน หรือเริ่มแตกหน่อเหลือดินขึ้นมาควรใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ผสมกับปุ๋ยยูเรีย 46-0-0 ในอัตราอย่างล่ะ 10 กรัม รวมเป็น 20 กรัม (หรือปุ๋ยคอกก็ได้ใส่พอประมาณ) ใส่ต่อ 1 กอ และรดน้ำตามทันที ใส่ทุก ๆ 2 เดือน

- ให้ใส่ปุ๋ยอีกรอบหนึ่งในช่วง 15 วันก่อนที่จะขุดข่าขาย ด้วยปุ๋ยเคมีสูตร 0-0-60 เพื่อกระตุ้นให้หน่อมีความสมบูรณ์อวบใหญ่และมีน้ำหนักมาก

โรคและแมง ของข่าเหลือง 
          กลิ่นของใบข่าเหลืองจะช่วยป้องกันแมลงศัตรูพืชได้ ส่วนหัวหรือแง่งก็ยังป้องกันแมลงศัตรูพืชใต้ดินได้ เพราะฉนันโรคและแมลงของข่าจึงมีน้อย

การเก็บเกี่ยวข่าเหลือง
          ข่าเหลืองสามารถเก็บเก็บเกี่ยวได้เมื่อมีอายุปลูก 6-8 เดือน (เก็บเป็นข่าอ่อน) ส่วนข่าแก่นั้น อายุปลูกคือ 12 เดือน ในช่วงนี้ข่าจะให้ผลผลิตดีมีน้ำหนัก ถ้าดินแห้งควรมีการรดน้ำเพื่อสะดวกต่อการขุดหรือถอน และลดความเสียหายต่อเหง้าข่าตอนขุด

* * * * *
Powered by Blogger.