ปลูก "ข้าวโพดข้าวเหนียว" อย่างไรให้รวยและได้ผลผลิตสูง
ปลูก "ข้าวโพดข้าวเหนียว" อย่างไรให้รวยและได้ผลผลิตสูง
ข้าวโพดข้าวเหนียว หรือบางท้องที่ต่าง ๆ เรียกว่า ข้าวโพดเทียน, ข้าวโพดสาลี เป็นต้น ถือว่าเป็นข้าวโพดที่ได้รับความนิยมรับประทาน และปลูกกันมากในพื้นที่ที่มีระบบน้ำพอเพียง เนื่องจากมีรสหวานเหนียวปลูกและดูแลว่าง อายุการเก็บเกี่ยวสั้น ราคาดี จึงมีหลายพื้นที่นิยมปลูกในแปลงนาหลังจากการเก็บเกี่ยวข้าวแล้วเพื่อเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง โดยจะพบปลูกข้าวโพดข้าวเหนียวมากในภาคเหนือ, ภาคกลาง และภาคอีสานการเตรียนดินปลูกข้าวโพดข้าวเหนียว
- ไถตากดินครั้งแรกทิ้งไว้ 2 สัปดาห์
- ไถอีกทีด้วยผานไถแปล เพื่อให้ดินละเอียด
- ใช้รถไถเดินตามไถยกร่องปลูกระหว่างร่อง 75-80 เซนติเมตร ระหว่างต้น 25-30 เซนติเมตร
- หยอดหลุมละ 3-4 เมล็ด ให้เมล็กระจายจากกันเล็กน้อย
- เมื่อต้นงอกมีความสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ให้ถอนเหลืออย่างน้อยหลุมละ 3 ต้น
การใส่ปุ๋ยข้าวโพดข้าวเหนียว
- ในช่วงแรกจะใส่ปุ๋ยหลังการหยอดเมล็ดพันธุ์ต้องหว่านปุ๋ยห่างจากหลุมปลูกเล็กน้อย ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 หรือ 16-20-0 ไร่ละ 40-50 กิโลกรัม
- ใส่ปุ๋ยครั้งสอง ตอนที่ข้าวโพดอายุได้ประมาณ 30 วัน ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 ผสมปุ๋ยยูเรีย หรือปุ๋ยสูตร 25-7-7 ในอัตรา 40-50 กิโลกรมต่อไร่ และไถกลบโคนข้าวโพด
- การใส่ปุ๋ยครั้งสุดท้าย ตอนที่ปลูกข้าวโพดข้าวเหนียวได้ประมาณ 60 วัน โดยจะเน้นปุ๋ยสูตร 46-0-0 ผสมสูตร 15-15-15 ในอัตราไร่ละ 20-30 กิโลกรัม
การให้น้ำข้าวโพดข้าวเหนียว
- ให้น้ำรดตามร่องข้าวโพดทุก ๆ 7-10 วัน หรือตามสภาพอากาศ หรือสภาพดินตามความเหมาะสม
ระยะเวลาเก็บเกี่ยวข้าวโพดข้าวเหนียว
- ข้าวโพดข้าวเหนียวจะเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่อปลูกได้ประมาณ 70-75 วัน จะสังเกตจากสีของไหมจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้ม
ซึ่งทางด้านการตลาดนั้นบางพื้นที่ก็จะมีรถไปรับถึงไร่โดยพ่อค้าคนกลาง ซึ่งจะซื้อขายกันตามราคา ณ ปัจจุบัน และในบางพื้นที่จะมีซุ้มขายข้างถนนที่มีรถสัญจรเป็นจะนวนมาก จะขายกันราคาที่ต้มเสร็จแล้วราคา 3 ฝัก 20 บาท ซึ่งก็เป็นอาชีพหนึ่งที่รายได้น่าสนใจเลยทีเดียว
* * * * *
เมล็ดพันธุ์ข้าวโพด พันธุ์อัญมณีแก้ว (ข้าวโพดสีรุ้ง)
