Header Ads

Breaking News
recent

การปลูกต้นพริกไทยในสวนยาง และทำพริกไทยดำ-ขาว


          โดยปกติทั่วไปแล้วชาวเกษตรกรที่ปลูกยางพารา ต้องประคบประหงมสวนยางกัน 7-10 ปีเป็นอย่างน้อยเผื่อจะมีน้ำยางมากพอที่จะทำการกรีดยางก็ต้องใช้เวลากันหน่อย และช่วงนี้ราคายางก็ไม่ค่อยสู้ดีนักแต่ก็พอดำรงชีวิตเลี้ยงครอบครัวแบบไม่ดิ้นรนก็คงพอทนได้น่ะหากแต่ว่าเราทำให้สวนยางที่รอคอยวันที่จะกรีดได้ และก็รอวันที่ต้นยางพร้อมงอกเงยมาเป็นรายได้นั้น เราปรับเปลี่ยนสวนยางให้เป็นการเกษตรแบบผสมผสานโดยที่สวนไม่ขาดการมีรายได้เข้ามา ก็คงจะดีไม่น้อยใช่หรือเปล่าเอ่ย

          การปลูกต้นพริกไทยนิยมปลูกกันมากขึ้นเกือบทุกจังหวัดและก็เกือบจะท้องที่ที่ทำการเกษตรหรือทำไร่ทำสวนต่างๆ เพราะว่าพริกไทยปลูกง่ายเติบโตง่ายดูแลรักษาง่าย และที่นิยมปลูกกันปัจจัยหลักคือ ราคาดีนั่นเอง การปลูกพริกไทยหลักๆในการปลูกที่ทราบๆกันก็คือ ต้องมีค้างหรือห้างให้เค้าเกาะเลื้อยเพื่อการเจริญเติบโตของต้นพริกไทยต่อไป การปลูกพริกไทยใช้เวลาในการเจริญเติบโตหรือระยะเวลาที่จะได้ผลผลิตที่สามารถเก็บเมล็ดพริกไทยเพื่อจำหน่ายหรือเพื่อบริโภคได้นั้นใช้เวลาประมาณ 2-3 ปีขึ้นอยู่กับการดูแล และอายุของต้นพริกไทยก็เช่นกันเมื่อติดดอกออกผลแล้วก็จะมีอายุที่ให้ผลผลิตที่งอกเงยได้ประมาณ 5หรือ10ปีขึ้นไปขึ้นอยู่กับการดูแลเช่นกัน

สวนพริกไทยตาสม ฤทธิชัย ซึ่งอยู่ที่ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช มองดูร่มรื่นกลมกลืนกันไปหมดทั้งต้นกล้วย,ต้นพริกไทยที่เลื้อยในต้นยางแถมมีต้นมะนาว

          ผู้เขียนได้สอบถามความรู้กับผู้ที่ทำสวนพริกไทยในสวนยางพาราว่าประสบผลสำเร็จดีหรือไม่ ซึ่งก็ได้คำตอบที่น่ายินดีและน่าชื่นชม คือหลังจากที่ปลูกต้นพริกไทยในสวนยางโดยใช้ลำต้นของต้นยางพาราเป็นค้างให้พริกไทยเกาะหรือเลื้อยนั้นไม่ประสบกับปัญหาใดๆตามมา และยังสามารถปลูกต้นกล้วยสลับกับต้นยางเพื่อเป็นร่มเงา และก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตจากกล้วยเป็นรายได้เพิ่มขึ้นมาอีก ถือว่าเป็นไอเดียสุดเจ๋งเลยทีเดียว

ปลูกพืชแบบผสมผสาน เกื้อกูลซึ่งกันและกัน

          วิธีการปลูกต้นพริกไทยในสวนยางนั้นวิธีการก็ไม่ยุ่งยาก วิธีการเหมือนกันกับปลูกพริกไทยโดยการใช้เสาปูนการดูแลรักษาก็เช่นกัน ใส่ปุ๋ยให้น้ำไม่ให้ขาด หาร่มเงาได้จากต้นยางพาราและก็ร่มจากต้นกล้วย การใส่ปุ๋ยในการดูแลที่แสนจะประหยัดและก็ปลอดภัยจากสารเคมีก็คงไม่มีปุ๋ยอะไรที่จะมีคุณภาพเกินไปกว่าปุ๋ยหมักจากมูลสัตว์ต่างๆ

วิธีการปลูกพริกไทยในสวนยางพารา

- ต้นยางพาราควรมีอายุ 1-2 ปีไม่เกินนี้ หากต้นยางที่มีอายุมากพร้อมกรีดแล้วไม่แนะนำ คือในช่วงที่รอต้นยางมีน้ำยางมากพอแก่การกรีดยาง ต้นพริกไทยก็มีอายุมากแล้ว และก็ให้ผลผลิตที่ลดหรือน้อยลงก็สมควรแก่เวลาในการโค่นหรือถอนทิ้ง เพื่อปลูกใหม่

- เลือกต้นกล้าพริกไทยตามสายพันธ์ุที่สมบูรณ์หรือที่ให้ความนิยมก็เห็นจะเป็นพริกไทยพันธ์ุซีลอน,และซาราวัค เป็นต้น เลือกกิ่งพันธ์ุที่แข็งแรงและสมบูรณ์

ต้นยางพาราที่มีอายุประมาณ 1-2 ปี 1ต้นเหมาะที่จะปลูกพริกไทยไม่เกินสองหลุมหรือพริกไทย 2 ต้น

- ยางพาราหนึ่งต้น เหมาะหรือควรปลูกต้นพริกไทยไม่เกินสองหลุมหรือ 2 ต้น

- วางระบบน้ำเพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ต้นพริกไทยด้วยระบบมินิสปริงเกลอร์


การเตรียมการปลูกพริกไทยโดยทั่วไป มีวิธีการดังนี้

- ทำการไถ่พรวนหน้าดินรอบๆต้นยางพารา ให้ลึกประมาณ 1-2 คีบและห่างจากลำต้นของต้นยางพาราประมาณ15-20เซนติเมตร(อาจใช้การขุดด้วยจอบก็ได้เพื่อเป็นการพรวนดินให้ร่วนซุย)

- ขุดหลุมขนาดกว้างxยาวxลึก 40x60x40 เซนติเมตร โดยให้ปากหลุมห่างจากโคนต้นยางพาราประมาณ 15-20 เซนติเมตร

- ผสมดินที่ขุดขึ้นมาได้ผสมกับปุ่ยอินทรีย์หรือมูลสัตว์ขุยมะพร้าวหรือปุ๋ยหมักที่มีอยู่ อัตราส่วนในการผสมคือปุ๋ยที่ใช้1ส่วนต่อดิน2ส่วน โกยดินกลบหลุมประมาณครึงหนึ่งของหลุมที่ขุด

- นำต้นกล้าพริกไทยที่เตรียมไว้ลงปลูกโดยให้ปลายยอดของต้นพริกไทยเอนเข้าหาต้นยางพารา หันด้านที่มีรากหรือตีนตุ๊กแกออกนอกต้นยางพารา

- ฝังต้นกล้าพริกไทยลงในดินประมาณ2ข้ออีกประมาณ3ข้อให้อยู่เนือผิวดิน แล้วทำการกลบให้แน่น

- รดน้ำให้ชุ่ม เป็นการเสร็จขั้นตอนการปลูกต้นพริกไทยโดยใช้ต้นยางพาราเป็นค้างให้เลื้อยแล้ว

- การให้น้ำสำหรับต้นพริกไทยช่วงแรกๆของการปลูกให้รดน้ำทุกวันหรือวันเว้นว้นแล้วแต่สภาพอากาศว่าร้อนมากแค่ไหนและให้เปลี่ยนเป็น 2-3วันต่อครั้ง สำหรับต้นพริกไทยที่ให้ผลผลิตแล้วควรให้น้ำ 3-5วันต่อครั้งซึ่งก็ให้ดูจากสภาพอากาศด้วยเช่นกันแต่ถ้าวางระบบน้ำแบบมินิสปริงเกลอร์ก็ไม่น่ามีปัญหาสามารถรดน้ำได้ตามสภาพอากาศได้


การดูแลรักษาพริกไทย และการเก็บเกี่ยวพริกไทย

- ต้นพริกไทยไม่ชอบแสงแดดจัดๆต้นยางพาราที่มีอายุุประมาณ 1-2 ปีก็จะมีกิ่งใบพอเป้นร่มเงาให้กับพริกไทยได้บ้าง แล้วก็ไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องที่ต้นพริกไทยต้องเจอกับแดดแรงๆอย่างบ้านเราน่ะ

- หลังการปลูกต้นพริกไทยสักระยะหนึ่งแล้ว ต้นพริกไทยเริ่มแตกยอดอ่อน3-5ยอดผู้ปลูกต้องคอยตัดยอดอ่อนให้เหลือเพียงยอดที่สมบูรณ์ที่สุดประมาณต้นละ 2 ยอดเท่านั้นและหมั่นคอยตรวจดูอย่าให้ยอดเลื้อยไปรวมกันอยู่เพียงแค่ด้านหนึ่งด้านใดของต้นยางพาราเพียงด้านเดียวเพราะว่าเมื่อต้นพริกไทยถึงอายุที่ให้ผลผลิตได้จะทำให้ต้นยางโน้มไปทางฝั่งเดียวแต่จริงๆแล้วต้นยางที่มีอายุ1-2ปีแล้วลำต้นก็ค่อนข้างแข็งแรงก็ไม่ค่อยมีปัญหาแต่ก็ควรไม่ให้ยอดเลื้อยไปกองอยู่ฝั่งเดียวก็เป็นการดีกว่าใช้เชือกฟางมัดเถาพริกไทยเป็นเปลาะๆห่างกันประมาณ 10-15เซนติเมตร โดยเปลาะแรกให้มัดอยู่เหนือพื้นดินประมาณ3ข้อ

- เมื่อต้นพริกไทยมีอายุได้ประมาณ1ปี ให้ตัดยอดที่สูงเหนือพื้นดินมากกว่า 50 เซนติเมตรทิ้งไปเพื่อให้แตกยอดมาใหม่และในระหว่างที่เถาของต้นพริกไทยยังไม่เจริญเติบโตมากนักให้ตัดช่อของดอกที่ออกมาระหว่างนั้นออกไป เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ต้นพริกไทยแคระแกรนและโตช้าลง

- หมั่นพรวนดินคลุมโคนต้นพริกไทยเพื่อป้องกันไม่ให้ต้นโยกคลอนล้มลงได้และยังช่วยกระตุ้นให้รากแผ่กระจากหาอาหารสะดวกยิ่งขึ้น ถอนหญ้าและกำจัดวัชพืชรอบๆต้นยางพาราและต้นพริกไทยเพื่อไม่ให้มาแย่งอาหารจากต้นพริกไทย

- การใส่ปุ๋ยช่วงแรกของการปลูกควรใส่ปุ๋ยหมักหรือปุ๋ยคอกอย่างน้อยปีละ 5 ครั้งโดยใส่ต่อต้นยางพารา1ต้นต่อปุ๋ยประมาณ 5 กิโลกรัมและควรพูนโคนไปพร้อมกันด้วย

- เมื่อพริกไทยอายุถึงแก่การเก็บเกี่ยว คืออายุที่เก็บเกี่ยวได้โดยปกติทั่วไปจะมีอายุอยู่ที่ประมาณ 2 ปีแต่จะให้ผลผลิตได้เต็มที่เมื่อมีอายุได้3ปีขึ้นไป และสำหรับระยะเวลาในการเก็บเกี่ยวพริกไทยจะใช้เวลาประมาณ 6ถึง7เดือนตั้งแต่ต้นพริกไทยเริ่มออกดอกจนถึงผลแก่ การเก็บผลของพริกไทยนั้นจะเก็บทั้งรวงโดยทยอยเก็บตามความแก่ของพริกไทย เพราะว่าพริกไทยนั้นจะแก่ไม่พร้อมกันหากต้องการเก็บพริกไทยอ่อน ให้เก็บขณะที่ผลของพริกไทยยังมีสีเขียวอยู่เต็มทั้งรวง ถ้าเป็นพริกไทยดำต้องเก็บรวงที่แก่จัดๆผลมีสีเขียวและแข็งแต่ไม่ถึงกับสุก และหากจะเก็บเพื่อทำพริกไทยขาว แนะนำให้เก็บเกี่ยวเมื่อเมล็ดมีสีเหลืองแดงรวงละ 3-4 เมล็ด


การทำพริกไทยดำ

          นำผลผลิตพริกไทยที่ได้ มาตากแดดประมาณ 1 แดด จากนั้นนำไปนวดให้ผลหลุดจากรวงและตากแดดซ้ำอีกครั้งบนลานซีเมนต์หรือพื้นที่ราบกว้างๆสะดวกๆและสะอาดตากแดดโดยให้ถูกแดดอย่างสม่ำเสมอประมาณ 3 แดดเป็นอย่างน้อย เมื่อผลพริกไทยแห้งสนิทได้ที่จะเปลี่ยนสีเป็นสีดำ ค่อยนำไปล่อนด้วยตะแกรงเพื่อแยกเอาเศษฝุ่นและก็เมล็ดที่ลีบออก ซึ่งพริกไทยสด100กิโลกรัมจะได้พริกไทยดำประมาณ 30-35กิโลกรัมหรือประมาณตามอัตราส่วน 3:1

การทำพริกไทยขาว

          นำพริกไทยที่เก็บมาแล้วนำไปผึ่งแดดพอแค่ให้แห้ง นำเข้าเครื่องนวดเพื่อแยกผลออกจากรวง จากนั้นนำผลพริกไทยไปแช่น้ำในบ่อซีเมนต์หรือถังน้ำ นานประมาณ 7-14 วัน เมื่อครบแล้วให้นำขึ้นจากน้ำที่แช่ มานวดลอกเปลือกออก แล้วนำมาเกลี่ยบนตะแกรงหรือไม้ไผ่ที่มีช่องให้เปลือกหลุดออกจากเมล็ดได้ ใช้น้ำล้างเปลือกออกจนหมด เมื่อล้างทำความสะอาดแล้ว ให้นำไปตากแดดทันที เกลี่ยให้สม่ำเสมอทั่วกัน ตากแดดประมาณ 4-5 วันจึงจะแห้งสนิทและพร้อมจำหน่ายหรือบริโภคได้แล้ว


          การปลูกต้นพริกไทยในสวนยางพารานั้นเป็นการทำการเกษตรแบบผสมผสาน ในระหว่างที่รอให้ต้นยางโตพร้อมกรีดเราก็ได้เก็บเกี่ยวผลผลิตของพริกไทยเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้นในระหว่างที่รอ ปลูกต้นกล้วยก็เพื่อเป็นร่มเงาและได้ผลผลิตจากกล้วยเพื่อจำหน่ายก็กลายเป็นรายได้เพิ่มขึ้นมาอีก การเกษตรไม่มีหลักตายตัวขึ้นอยู่กับการพลิกแพลงในการเกษตรให้ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน อาจจะมีแนวคิดหรือเทคนิคเล็กๆน้อยๆเพิ่มเติมเพื่อให้การทำการเกษตรให้สามารถช่วยให้ชาวเกษตรกรทำแล้ว มีความสุขและสามารถเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวไม่ให้เดือดร้อน การปลูกพริกไทยกับต้นยางพาราก็เช่นกันไม่ได้เป็นเทคนิคตายตัว บางท่านหรือบางสวนก็มีการนำต้นพริกไทยไปปลูกกับต้นไม้ชนิดอื่นบ้างเหมือนกันเช่นต้นกฤษณา,ต้นปาล์ม,ต้นมะรุมยังมีเลย แล้วแต่ว่าใครมีต้นไม้แบบไหนที่เหมาะสมและสมควรปลูกพืชชนิดไหนร่วมกันได้ อยู่ได้ทำได้ เราคนไทยเดินตามรอยพ่อหลวงของเรา อยู่แบบพอเพียงและเพียงพออย่างยั่งยืน

* * * * *
ที่มา : สวนพริกไทยตาสม, บ้านน้อย
ปลูกพริกไทยแล้วไม่มีที่ขาย ขายได้ที่
ตลาดกลาง "ซื้อ-ขาย สินค้าเกษตร"
ที่สมาชิกเยอะที่สุด
VV คลิก VV

แชร์...ตรงนี้ เพื่อเป็นประโยชน์ให้เพื่อนที่ได้เห็น
VVVVVVVVV

Powered by Blogger.