Header Ads

Breaking News
recent

กีวี สามารถปลูกในประเทศไทยได้


กีวี สามารถปลูกในประเทศไทยได้

     ผมเชื่อว่าทุกคนต่างก็ต้องรู้จัก "กีวี" กันทั้งนั้น และกีวีเป็นผลไม้ที่คนไทยรู้จักกันมานานแล้ว เมื่อก่อนกีวีเป็นผลไม้ที่เราต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศเท่านั้น เพราะว่ากีวีเป็นไม้ประจำถิ่นของประเทศจีนเขา ซึ่งวันนี้ เกษตรนานา จะมาพูดถึง การปลูกกีวี กันครับว่ากีวีนั้นสามารปลูกที่ประเทศไทยได้แล้วจริง ๆแม้ว่าบ้านเราจะอยู่ในเขตร้อนก็ตามที.....

ลักษณะของ กีวี

     กีวี เป็นไม้เลื้อยมีขนสีน้ำตาลแดงปกคลุม ใบจะมีลักษณะเป็นใบเดี่ยวรูปหัวใจออกเรียงสลับกันแผ่นใบมีสีเขียว มีขนสีน้ำตาลแดงปกคลุมอยู่เช่นกันโคนใบเว้า หลายใบแหลม ขอบใบหยักขนาดใบกว้างประมาณ 4 ถึง 7 เซนติเมตร ยาวประมาณ 7 ถึง 10 เซนติเมตร ดอกจะเป็นดอกเดียวหรือเป็นช่อดอกเกสรเพศผู้และดอกเกสรเพศเมียอยู่ต่างต้นกัน ดอกมีสีขาว กลีบดอกมี 5หลีบ ผลจะเป็นรูปไข่ สีน้ำตาล มีขนสีน้ำตาลปกคุมทั่วผล เนื้อในมีสีเขียว สีทอง ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำ ซึ่งก็ขึ้นอยู่ทีสายพันธุ์ที่เราปลูกด้วย มีเมล็ดเล็ก ๆสีดำหลายเม็ดอยู่ข้างในผล เป็นพืชที่ชอบอาการเย็นถึงหนาว

ลักษณะ ผลกีวี

ลักษณะ ใบกีวี

สายพันธุ์ของกีวี ที่ปลูกในประเทศไทย

     พันธุ์ที่ปลูกในปัจจุบันในประเทศไทยนั้นจะเป็นพันธุ์ Bruno สามารถปลูกได้ที่เฉพาะพื้นที่สถานีเกษตรหลวงอ่างขางเท่านั้น ด้วยความสูงประมาณ 1400 เมตรจากระดับน้ำทะเล และความหนาวเย็นยาวนานประมาณ 350 ถึง 400 ชั่วโมง จึงทำให้กีวีเป็นพืชที่สามารถปลูกได้เฉพาะภาคเหนือของประเทศไทยเท่านั้น

กีวี สามารถปลูกในประเทศไทยได้

การปลูกกีวี

     การปลูกกีวี นั้นจะปลูกด้วยการเพาะเมล็ดกับการเพาะเลี้ยงเนื้อเหยื่อ หลังจากที่ได้ต้นกล้าของกีวีแล้วเราควรเลือกดินที่มีธาตุอาหารที่เหมาะสมกับต้นกีวีด้วย ดินที่เหมาะสมที่สุดในการปลูกกีวีก็คือดินร่วมปนทราย หรือเป็นดินร่วนก็ได้เช่นกัน มีการระบายน้ำดี หน้าดินต้องลึกอย่างน้อย 0.6 เมตรมีความเป็นกรดเป็นด่าง อยู่ในช่วง 5.5-7.0 หลังจากปลูกกีวีเสร็จแล้ว เราควรที่จะทำค้างให้กับต้นกีวีด้วย

***ข้อควรระวัง
     ควรมีแนวกำบังลมตามธรรมชาติ เพราะว่าลมแรงจะทำให้กิ่งอ่อนหักได้ ทำให้การผสมเกสรของดอกลดลง และยังอาจจะทำให้ผลกีวีเกิดความเสียหายเนื่องจากมีการเสียดสีกับใบ ซึ่งหลักของแนวกำบังลมนั้นคือ ไม้กำบังลมมีความสูงสม่ำเสมอ ไม่มีช่องว่างและควรปลูกให้ชิดกันแต่ที่สำคัญต้องปลูกในระยะที่ไม่บังแสงแดดด้วย

- ระยะปลูกกีวี ทั่ว ๆ ไปประมาณ 4.5X6-9 เมตร ขึ้นอยู่กับชนิดของค้างที่ใช้ ซึ่งต้องมีการปลูกต้นตัวผู้แทรกไว้เสมอเพื่อให้มีการผสมเกสร สัดส่วนของต้นตัวผู้ตัวเมียอยู่ระหว่าง 1:4 ถึง 1:9 ขึ้นอยู่กับพันธุ์

แปลงปลูกกีวี

การทำค้าง เนื่องจากกีวีเป็นพืชที่มีลักษณะเป็นเถาเลื้อยจึงจำเป็นต้องทำค้างให้ยึดเกาะ ซึ่งค้างสำหรับกีวี ทั่ว ๆ ไปที่นิยมทำกันมีหลายแบบคือ แบบตัวที (T-bar), Pergola, The MTV system, A-flame, Agbar ซึ่งรูปร่างคล้ายตัววี โดยให้มีความสูงเหนือดินประมาณ 1.8 เมตร เพื่อให้สะดวกในการปฏิบัติงาน สำหรับค้างแบบตัวทีปกติจะมีแขนยาวประมาณ 1.5 เมตร มีเส้นลวดพาด 3 เส้น เป็นแบบที่แสงแดดส่องถึงได้ดีและเก็บเกี่ยวได้สะดวก ขณะที่แบบ The MTV system นั้นช่วยไม่ให้เถาใหม่ที่เกิดขึ้นแน่นจนเกินไป

การดูแลกีวี หลังจากนั้นก็ทำการดูแลด้วยการใส่ปุ๋ยคอกอย่างสม่ำเสมอ สิ่งสำคัญในการรดน้ำก็คือเราต้องรู้ไว้อย่างว่า ต้นกีวีเป็นต้นไม้ที่มีระบบรากตื้นหากินธาตุอาหารอยู่ที่ผิวดินเราควรที่จะใช้ระบบหยดน้ำในการให้น้ำเพื่อไม่มีการทำให้น่าดินเป็นร่องและจะไม่กระทบต่อระบบรากของต้นกีวีด้วย ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ให้เป็นที่อยู่ของแมลงศัตรูพืช

- การตัดแต่ง หลังปลูกในปีแรกต้องเลือกให้มีเถา 1 เถาที่แข็งแรงและตั้งตรง มีตาที่สมบูรณ์ 4-6 ตา พูนดินตอบโคนต้นให้ยึดต้นให้มั่นคง ใช้เส้นลวดตรึงเถากีวีกับเสาค้างให้เป็นระยะ ๆ ให้ต้นตั้งตรง ตัดปลายจุดเจริญหรือตัดยอดบริเวณใต้ระดับค้างเล็กน้อยออกในระหว่างการฟักตัว มีรายงานว่า การตัดยอดใต้ระดับค้างประมาณ 1 0-20 เซนติเมตร ช่วยทำให้กิ่งใหม่ที่จะใช้เป็นกิ่ง leader (กิ่งหลัก) มีความแข็งแรงดีในปีที่ 2 คัดเลือกกิ่งใหม่ให้เป็นกิ่ง leader โดยให้เจริญออกไปด้านซ้ายและขวาของต้นด้านละ 1 กิ่ง โดยให้พาดไปตามค้าง จากนั้นให้ตัดกิ่งโดยให้มีตา 3-5 ตา เพื่อให้แตกกิ่งใหม่อีก 2-3 กิ่ง สำหรับกิ่งจากกิ่ง leader ให้ผูกติดกับแขนของค้าง ซึ่งจะกลายเป็นกิ่ง fruiting arms (กิ่งสาขา) ต่อไป เมื่อต้นพักตัวในฤดูหนาว ให้ตัดแต่งกิ่ง leader ออกให้เหลือตาประมาณ 4-5 ตา และกิ่ง fruiting arms เหลือตา 2 ตา เพื่อให้กิ่งเป็นกิ่งใหม่ 2 กิ่งในปีที่ 3 แต่ต้องกระทำอย่างระมัดระวัง เพราะกิ่งจะหักง่าย ส่วนในปีที่ 3 อาจจะตัดเอากิ่ง fruiting arms ที่มากเกินไปออกไปบ้าง โดยให้มีระยะห่างระหว่างแต่ละกิ่งประมาณ 25-30 เซนติเมตร จะช่วยให้การตัดแต่งในปีต่อ ๆ ไปทำได้สะดวกขึ้น ซึ่งการตัดแต่งจะคล้ายคลึงกับปีที่ 3

การเก็บเกี่ยวกีวี

     ต้นกีวี จะติดผลให้เราได้เก็บเกี่ยวเมื่ออายุครบ 1 ปี หลังจากเก็บเกี่ยวแล้วเราควรที่จะตัดแต่งกิ่งต้นกีวีอย่างสม่ำเสมอด้วยเช่นกัน



M Molasses กากน้ำตาลแท้โมลาส Molass ขนาดบรรจุ 5 ลิตร

*-*-*-*-*-*
Picture By : pixabay.com

ตลาดกลาง "ซื้อ-ขาย สินค้าเกษตร"
ที่สมาชิกเยอะที่สุด
VV คลิก VV

แชร์...ตรงนี้  เพื่อเป็นประโยชน์ ให้เพื่อนที่ได้เห็น
VVVVVVVVV
Powered by Blogger.