"ปีแป๋" ปลูกได้และให้ผลผลิตในเมืองไทย

"ปีแป๋" ปลูกได้และให้ผลผลิตในเมืองไทย

จากข้อมูลพบว่า “ปีแป๋” (Pipa) ซึ่งชื่อภาษาอังกฤษจะเรียกผลไม้ชนิดนี้ว่า “โลควอท” (Loquat) เป็นผลไม้ที่มีประวัติมานานนับ 1,000 ปี ซึ่งพบเอกสารการปลูกในประเทศญี่ปุ่นนานกว่า 1,100 ปีมาแล้ว ต่อมามีนักพฤกษศาสตร์บางท่าน ชี้ว่าแต่เดิมที่ผลไม้ชนิดนี้น่าจะปลูกที่ประเทศจีนมาก่อน ต่อมาได้ถูกนำเข้าไปปลูกที่ญี่ปุ่นจนมีชื่อเสียง แล้วกระจายพันธุ์ออกไปอย่างกว้างขวาง


ทั้งในแถบเกาหลี, ไต้หวัน, ฝั่งยุโรป และ อเมริกา เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบันพื้นที่เพาะปลูก “ปีแป๋” ในเชิงการค้า จะมีมากในประเทศจีน, ญี่ปุ่น, เกาหลี และไต้หวัน เป็นต้น

“ปีแป๋” เป็นผลไม้ที่มีทรงผลคล้าย ๆ ลูกแพร์ แต่ขนาดของผลเล็กกว่า ขนาดผลมีความยาวประมาณ 1.5-2 นิ้ว ขนาดผลใหญ่ใกล้เคียงกับมะยงชิด ติดผลเป็นพวง  พวงละ 3-10 ผล แต่ถ้าคัดบรรจุลงกล่องที่สวยงามก็จะตัดแยกออกเป็นผลเดี่ยวจัดเรียงกล่องละ 12-15 ผล ผิวผลและขั้วผลจะมีขนละเอียดนุ่มปกคลุมอยู่ วิธีรับประทานปีแป๋นั้น เพียงท่านลอกเปลือกที่ผลออก โดยจะมีลักษณะเป็นเปลือกบาง ๆ รสชาติของปีแป๋ มีรสชาติไม่หวานจัด หรือหวานแหลมจนแสบคอ ทำให้ผู้ที่ได้กินปีแป๋ต่างรู้สึกประทับใจในรสชาติของผลไม้ชนิดนี้เป็นอย่างมาก ทางชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตรก็ได้นำเมล็ดปีแป๋มาเพาะเมล็ดเป็นได้นับร้อยต้น แล้วปลูกไว้ในแผนกฟาร์มของชมรมเผยแพร่ฯ ที่ จ.พิจิตร โดยปลูกแซมระหว่างต้นมะม่วงน้ำดอกไม้ซึ่งพบว่าในเดือนกันยายน 2554 ต้นปีแป๋บางต้นที่ได้จากการเพาะเมล็ดซึ่งมีอายุเพียง 2 ปีเศษ บางต้นเริ่มออกดอกให้เห็นบ้างแล้ว แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ว่าสามารถปลูกต้นปีแป๋ได้ในบ้านเรา และส่วนหนึ่งทางชมรมฯ พบว่าต้นปีแป๋ มีการตอบสนองต่อการใช้สาร “แพคโคลบิวทราโซล” ขณะนี้มาถึงเดือนมีนาคม 2556 พบว่า ต้นปีแป๋ที่ปลูกใน จ.พิจิตร มีอายุต้นได้ 4 ปีผลปรากฏว่า มีต้นที่เริ่มให้ผลผลิตแล้วเป็นสิ่งที่ยืนยันได้ชัดเจนว่าต้นปีแป๋ซึ่งเป็นไม้ผลท้องถิ่นของจีน, ไต้หวัน, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น สามารถปลูกและให้ผลผลิตได้ในเมืองไทย ซึ่งเป็นเมืองร้อนเพียงแต่ใช้เทคโนโลยีเข้าไปช่วยเท่านั้น รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปลูกปีแป๋ ติดต่อได้ที่ ชมรมเผยแพร่ความรู้ทางการเกษตร โทร. 08-1886-7398

ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนของทุกปี ตามแผงผลไม้ต่าง ๆ ในไต้หวัน มีผลไม้หลายชนิดวางขาย เช่น แตงโมยักษ์, ฝรั่ง, มะละกอ ฯลฯ แต่มีผลไม้ชนิดหนึ่งที่มีลักษณะติดผลเป็นพวง ผลมีสีเหลืองส้ม โดยคนไต้หวันเรียกผลไม้ว่า “ปีแป๋” (Pipa) จากการสอบถามพ่อค้าแผงผลไม้ทราบว่า ผลไม้ที่ชื่อ “ปีแป๋”(คนไทยบางคนเรียกผลไม้ชนิดนี้ว่า “ผีผา”) นั้น จะมีขายปีละครั้งจัดเป็นผลไม้ที่มีชื่อเรียกและเป็นเอกลักษณ์ของไต้หวันก็ว่าได้ช่วงเดือนมกราคม - เมษายนของทุกปี เป็นผลไม้ที่มีราคาค่อนข้างสูงคือ กิโลกรัมละ 100-300 บาทไทย โดยราคาจะขึ้นอยู่กับการคัดเกรด ขนาดผล และ กล่องบรรจุภัณฑ์ที่มีความสวยงามมากน้อยเพียงใด และเป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยและมีประโยชน์ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ

* * * * * 

บทความดีดีจาก : เดลินิวส์