Header Ads

Breaking News
recent

สูตรเร่งให้พืชโตเร็ว แข็งแรง ด้วยน้ำหมักจากพืชสีเขียว (สูตรเกาหลี)


          น้ำหมักพืชสีเขียวนี้สามารถใช้พืชที่มีสีเขียวเข้มมาหมักได้ทุกชนิด โดยเน้นใช้แต่ส่วนยอดหรือส่วนของเนื้อเยื้อเจริญ ซึ่งจะมีฮอร์โมนที่เกี่ยวกับการเจริญเติบโตของพืชอยู่มาก แต่ตามสูตรนี้จะเน้นใช้แต่ผักบุ้งเพียงอย่างเดียว  โดยพืชที่นำมาหมักใช้แล้วส่งผลให้พืชปลูกเติบโตเร็ว เพิ่มผลผลิตที่ดีที่สุดนั้นมีอยู่ 3 ชนิดด้วยกัน คือ ผักบุ้ง หน่อไม้ และหน่อกล้วย หรือ หยวกกล้วย อาจเนื่องมาจากพืชทั้งสามชนิดนี้มีจุลินทรีย์ที่เอื้อประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของพืชมากที่สุดนั่นเอง นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้กับพืชได้ทุกชนิด โดยไม่ส่งผลกระทบข้างเคียงต่อพืชปลูกแต่อย่างใด

          สำหรับเทคโนโลยีการทำน้ำหมักพืชสีเขียวหรือนำน้ำหวานหมักจากพืชเพื่อใช้ทางการเกษตรนี้ เป็นภูมิปัญญาจากประเทศเกาหลี โดยคุณฮาน คิวโช (Mr.Han Kyo Cho) นายกสมาคมเกษตรธรรมชาติแห่งประเทศเกาหลี พัฒนาขึ้นมาจากประสบการณ์ส่วนตัว เมื่อ 40 ปีที่แล้ว เป็นผู้คิดค้นและเผยแพร่ เนื่องจากน้ำหวานหรือน้ำหมักจากพืชนี้จะเป็นแหล่งอาหารที่ดีที่สุดที่จะช่วยทำให้พืชปลูกแข็งแรง เจริญเติบโตดี ช่วยลดต้นทุนการผลิต ลดการใช้สารเคมี ทั้งยังช่วยรักษาความสมดุลของระบบนิเวศและสภาพแวดล้อม เป็นผลดีต่อสุขภาพผู้ผลิตและผู้บริโภคที่ดีอีกด้วย

เกลือ

สิ่งที่ต้องเตรียม
1. ต้นผักบุ้ง ทอดยอด จำนวน 2 กิโลกรัม
2. น้ำตาลทรายแดง จำนวน 1 กิโลกรัม
3. เกลือสินเธาว์ จำนวน 1/2 กิโลกรัม
4.ไหดินเผาหรือถังที่มีฝาปิด จำนวน 1 ถัง
5. กระดาษหนังสือพิมพ์
6. ขวดสีชา
7. สายยางขนาดเล็กหรือที่ดูดน้ำมัน

*** หากไม่สามารถหาพืชทั้ง 3 ชนิดนี้(ผักบุ้ง หน่อไม้ และ หน่อกล้วย) มาเป็นวัตถุดิบในการหมักได้ ก็สามารถใช้พืชตระกูลถั่ว หรือพืชปลูกมาหมัก แล้วนำไปฉีดพ่นพืชชนิดเดียวกันก็ให้ผลดีเช่นเดียวกัน

น้ำตาลทรายแดง

วิธีการทำ
          1.) เก็บผักบุ้งในช่วงเวลาเช้ามืดก่อนพระอาทิตย์ขึ้น มาเป็นวัสดุหลักในการหมัก เพราะเป็นช่วงเวลาที่อาหารที่พืชสะสมไว้มีปริมาณมากที่สุด และยังไม่ถูกนำไปใช้ในขบวนการสังเคราะห์แสง เมื่อเก็บผักบุ้งมาได้แล้วไม่ต้องล้าง

          2.) ตัดผักบุ้งเป็นท่อนๆ ยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร นำไปชั่งให้ได้น้ำหนักตามอัตราส่วน คือ 2 กิโลกรัม

          3.) แบ่งผักบุ้งที่หั่นออกเป็น 2 ส่วน เอาส่วนหนึ่งใส่อ่าง โรยน้ำตาลทรายแดงลงบนผักบุ้งเล็กน้อยหรือประมาณ 1 ส่วน 3 ของน้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม แล้วคลุกเคล้าน้ำตาลให้เข้ากับผักบุ้ง เบาๆ ๆ ระวังอย่าให้เนื้อเยื่อผักบุ้งเกิดการฉีดขาดหรือช้ำ(มากไปกว่ารอยแผลที่ได้จากการหั่น) จนกระทั่งน้ำตาลทรายแทรกซึมเข้าไปในชิ้นส่วนของผักบุ้ง จึงกอบผักบุ้งใส่ไหในภาชนะหมัก

          4.) นำผักบุ้งในส่วนที่เหลือใส่กระมังอีกใบโรยน้ำตาลทรายแดงให้มากกว่าการแบ่งใช้ในครั้งแรกเล็กน้อย ก่อนจะคลุกเคล้าให้เข้ากันจนเห็นเม็ดน้ำตาลแทรกซึมอยู่ในชิ้นส่วนของผักบุ้ง เสร็จแล้ว ตั้งหมักทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง จึงนำผักบุ้งใส่ลงไปในภาชนะหมัก ใช้มือกดและปาดให้เรียบเป็นชั้นเสมอกัน

          5.) นำน้ำตาลทรายแดง-เกลือส่วนที่เหลือจากการเตรียมการตามขั้นตอนที่ 3 และ 4 โรยปิดเป็นชั้นบนสุด แล้วปิดปากภาชนะหมักด้วยกระดาษ ปิดฝาถัง ตั้งวางไว้ในที่ร่มและเย็น ไม่มีแสงแดด

          6.) หลังหมักได้ประมาณ 7 – 15 วัน ให้ดูดเอาแต่น้ำหมักไปเก็บไว้ในขวดสีชา โดยเว้นพื้นที่ว่างระหว่างปากขวดกับผิวหน้าน้ำหมักไว้ประมาณ 1 นิ้ว ปิดฝาให้แน่นสนิท ห่อขวดด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ เก็บไว้ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่มีแสงแดด หรือจะดูดน้ำหมักขึ้นมาแล้วนำไปใช้ เลยก็ได้เช่นกัน ถ้าเก็บไว้ในที่เหมาะสมจะคงคุณภาพของน้ำหมักไว้ได้นานประมาณ 5-6 เดือน

การนำไปใช้
          - นำน้ำหวานหมักจากผักบุ้งผสมกับน้ำสะอาด ในอัตราส่วน นำหมัก 1 ส่วน ต่อน้ำเปล่า 500 ส่วนหรือ จะใช้น้ำหวานหมักผักบุ้ง 3 ช้อนแกงต่อน้ำ 20 ลิตรหรือ 1 ปี๊บ ฉีดพ่นให้ทั่วทรงพุ่มพืช ในช่วงเช้าหรือหลังจากตะวันตกดิน

          - หากพืชไม่ค่อยงามให้ฉีดพ่นทุกๆ 3 วัน จะช่วยทำให้พืชเจริญเติบโตดีขึ้น ส่วนพืชที่มีการเจริญเติบโตดีแล้ว ให้ฉีดพ่นทุกๆ 7 หรือ 10 วัน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่พืช

ไห

ข้อควรระวัง
          - ห้ามใช้ฉีดพ่นกับพืชที่กำลังยืดขยาย เพราะจะทำให้พืชยืดขยายตัวเร็วเกินไป ส่งผลให้ผนังเซลล์รหือส่วนที่ยืดขยายของพืชไม่แข็งแรง เป็นเหตุให้อ่อนแอจต่อการทำลายของโรคและแมลงศัตรูพืชได้ง่าย

          - ความเข้มข้นของน้ำหมักต้องเป็นไปตามสัดส่วนที่แนะนำเท่านั้น คือ น้ำหมัก 3 ช้อนแกงต่อน้ำ 20 ลิตร ใช้ฉีดพ่นบำรุงพืชตอนขณะเป็นต้นอ่อน ห้ามใช้เกินสูตรเด็ดขาดเพราะอาจส่งผลให้พืชมีอาการใบไหม้เกรียมหรือตายได้

ข้อแนะนำ
          การเลือกใช้พืชสีเขียวมาเป็นส่วนผสมหลักในน้ำหมัก หากสามารถหาวัตถุดิบ เช่น ผักบุ้ง หรือ หยวกกล้วย ได้จะยิ่งส่งผลดี เพราะพืชที่มีช่วงความยาวระหว่างข้อภายในกิ่งยาวจะมีฮอร์โมนควบคุมการเจริญเติบโตมากกว่าพืชทั่วไป และควรเป็นพืชที่โตเร็ว เพราะพืชที่โตเร็วมีพลังธรรมชาติที่จะสร้างพลังชีวิตได้มาก

* * * * *
เครดิต : รักบ้านเกิด

ทำเกษตรแล้วไม่มีที่ขาย ขายได้ที่
ตลาดกลาง "ซื้อ-ขาย สินค้าเกษตร"
ที่สมาชิกเยอะที่สุด
VV คลิก VV

แชร์...ตรงนี้  เพื่อเป็นประโยชน์ ให้เพื่อนที่ได้เห็น
VVVVVVVVV
Powered by Blogger.