Header Ads

Breaking News
recent

มะระจีนพันธุ์พิจิตร ๑


มะระจีนพันธุ์พิจิตร ๑

     มะระจีน ปัจจุบันมีการปลูก กันอยู่ทั่วไป เพราะประชาชนนิยมบริโภค แต่มะระจีนพันธุ์พิจิตร ๑ น่าสนใจมาก เนื่องจากให้ผลผลิตสูงเฉลี่ย ๓.๕ - ๔ ตันต่อไร่ สูงกว่าพันธุ์ร้านค้าโดยทั่วไป มีลักษณะผลยาวรี กว้าง ๖-๗ เซนติเมตร ยาว ๑๘ - ๒๓ เซนติเมตร ความหนาเนื้อ ๐.๕ - ๐.๘ เซนติเมตร ผลมีสีเขียวอ่อนโดยธรรมชาติ ไม่ต้องห่อความขมน้อย มีรสชาติดี


     มะระจีนพันธุ์พิจิตร ๑ เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศค่อนข้างเย็น ประมาณ ๑๘-๒๕ องศาเซลเซียส แต่ถ้าอุณหภูมิต่ำกว่า ๑๕ องศาเซลเซียสการเจริญเติบโตจะช้าและไม่เลื้อยพันไม้ค้าง การไม่ห่อผลจะทำให้ต้องใช้สารปัองกันกำจัดแมลงวันทอง ปัญหาโรคแมลงอื่นๆ เช่นเดียวกับการปลูกมะระจีนทั่วไป

     ในทุกภูมิภาคของประเทศไทยที่แหล่งน้ำ สภาพดินร่วนหรือดินร่วนปนทรายระบายน้ำได้ดี สามารถปลูก มะระจีนได้ดี ถ้าปลูกเพื่อบริโภคสดปลูกได้ทุกฤดูกาลตลอดปี แต่ปลูกได้ผลดีที่สุดในช่วงฤดูหนาว ถ้าปลูกเพื่อผลผลิตเมล็ดพันธุ์ ให้ปลูกปลายฤดูฝนถึงฤดูหนาวหรือช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนมกราคม


การปลูก


     การปลูกมะระต้องเตรียมดินโดยไถ ๑ครั้ง ตากดินทิ้งไว้ ๑-๒ ครั้ง เก็บเศษวัชพืชหรือวัสดุอื่นออกจากแปลงให้หมด ปรับสภาพดินให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชด้วยปูนขาวความเป็นกรดเป็นด่างที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง ๕.๕ - ๕.๖

     การปลูกเพื่อบริโภคสด ปกติจะใช้เมล็ดพันธุ์ ๓๕๐ กรัมต่อไร่ (ค่าเฉลี่ยน้ำหนักต่อ๑,๐๐๐ เมล็ดเท่ากับ ๑๗๕ กรัม) นำเมล็ดแช่ในน้ำสะอาด ๒๔ ชั่วโมง หลังจากนั้นนำมาบ่มโดยห่อด้วยผ้าขนหนูชื้นเก็บไว้ที่อุณหภูมิ ๓๐ องศาเซลเซียส นาน ๒ วัน จะมีรากงอกออกมานำไปเพาะในถุงพลาสติกขนาด ๔ x๖ ถุงละ ๑ เมล็ด ถุงเพาะใส่ดินที่มีส่วนผสมของดินร่วนต่อปุ๋ยคอกอัตรา ๒ ต่อ ๑ โดยปริมาตร และปุ๋ยเคมี ๐ - ๔๖ - ๐ = ๕๐ กรัม รดนํ้าสม่ำเสมอจนกล้าโตมีใบจริง ๒ - ๓ ใบ ซึ่งใช้เวลาประมาณ ๑๒ - ๑๕ วันจึงย้ายลง ปลูกกรณีที่ปลูก โดยหยอดเมล็ดลงหลุมโดยตรง ให้หยอด ๒ เมล็ดต่อหลุมซึ่งจะใช้เมล็ดเพิ่มขึ้นอีก ๑เท่าตัว เมื่อต้นกล้าเริ่มมีใบจริง ๒ ใบ ก็ให้ถอนแยกเหลือหลุมละ ๑ ต้น

     วิธีปลูก ยกแปลงกว้าง ๑.๕ เมตร ยาว ๑๐ เมตร เว้นทางเดิน ๕๐ เซนติเมตร ปลูก๒ แถวต่อแปลง ระยะระหว่างแถวคูณระยะระหว่างต้น = ๑๐๐ x ๕๐ เซนติเมตร รองพื้นหลุมด้วยปุ๋ยคอกอัตรา ๑.๕ - ๒ ตันต่อไร่ พร้อมปุ๋ยเคมี ๑๕ - ๑๕ - ๑๕ อัตรา ๒๕ กิโลเมตรต่อไร่ปักไม้สูงประมาณ ๑.๘ - ๒ เมตรทุกหลุม ใช้เชือกไนลอนผูกค้างทุกระยะ ๓๐ เซนติเมตรส่วนด้านบนสุดของค้างใช้ไม้ค้างพาดขวาง ป้องกันการโค่นล้ม

การดูแลรักษา

     ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ปลูกจนถึงเก็บเกี่ยว ใส่ปุ๋ยเคมี ๑๕ - ๑๕ - ๑๕ อัตรา ๒๕กิโลกรัมต่อไร่แบบโรยสองข้างแถว โดยแบ่งทยอยใส่ในช่วงติดผล ปล่อยให้เถาหลักเจริญเติบโตไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเด็ดออก ตัดกิ่งแขนงเล็กๆ ที่ไม่แข็งแรงออก รวมทั้งปลิดผลที่ผิดปกติหรือเป็นโรคทิ้ง เมื่อผลยังมีขนาดเล็กพรวนดินและกำจัดวัชพืชโดยระวังอย่าให้กระทบกระเทือนระบบราก พ่นสารป้องกันกำจัดโรคและแมลงรบกวนตามความจำเป็นและเหมาะสม

การเก็บเกี่ยว

     การเก็บเกี่ยวมะระ ระยะเวลาที่เหมาะสมคือ ๑๗ วันหลังดอกบาน เก็บเกี่ยวผลครั้งแรกหลังเพาะกล้าหรือหยดเมล็ดลงหลุมปลูกประมาณ ๔๕ - ๕๐ วัน ทยอยเก็บผลผลิตวันเว้นวันหรือทุกวัน สามารถเก็บได้นาน ๑๗ - ๒๐ ครั้ง อายุถึงเก็บเกี่ยวผลผลิตครั้งสุดท้าย๘๕ - ๙๐ วัน

การปลูกเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์

     การปลูกเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ แปลงปลูกควรอยู่ห่างจากพันธุ์อื่นอย่างน้อย ๑๐๐ เมตร เพื่อป้องกันการผลิตผสมข้าวพันธุ์ วิธีปลูกก็เหมือนกับการปลูกเพื่อการบริโภค ให้น้ำอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่ปลูกจนถึงเก็บเกี่ยว ใส่ปุ๋ยเคมี ๑๕ - ๑๕ - ๑๕ หรือ ๑๓ - ๑๓ - ๑๒ อัตรา๕๐ กิโลกรัมต่อไร่ แบบโรยสองข้างแถว โดยแบ่งทยอยใส่ในช่วงติดผลให้แต่ละครั้งห่างกัน ๒ - ๓ สัปดาห์

     ตรวจความตรงตามพันธุ์ ในระยะติดผลอ่อนครั้งแรก คัดต้นที่ไม่ตรงตามพันธุ์ออก ตัดกิ่งแขนงที่ไม่แข็งแรงออก ปลิดผลที่ผิดปกติหรือเป็นโรคระยะที่เป็นผลเล็ก พรวนดินกำจัดวัชพืชและพ่นสารป้องกันกำจัดโรคแมลงตามความ จำเป็นและเหมาะสม

     เก็บเกี่ยวเมล็ดพันธุ์ เมื่อผลแก่เป็นสีเหลืองทั้งผลหรือหลังดอกบาน ๒๒ วัน เก็บเกี่ยวผลแก่ครั้งแรกหลังจากเพาะกล้าหรือหยอดเมล็ดลงหลุมปลูกได้ ๖๐ - ๖๕ วันเก็บเกี่ยวผลแก่ครั้งสุดท้ายเมื่ออายุได้ ๙๐ - ๙๕ วัน จากนั้นนำผลแก่มาแยกเปลือกและเมล็ดออก ล้างเมล็ดด้วยน้ำสะอาด วางเมล็ดในกระดังหรือตะแกรงไนลอน เกลี่ยเมล็ดให้กระจายสม่ำเสมอ นำมาผึ่งแดดอ่อนในที่ที่มีอากาศถ่ายเทเพื่อป้องกันเมล็ดเชื้อราหลังจาก ผึ่งเมล็ดแล้วนำมาคัดแยกเมล็ดลีบอีกครั้งจะได้ผลผลิตเมล็ดพันธุ์ ๔๐ - ๔๕ กิโลกรัมต่อไร่

* * * * * *
Powered by Blogger.